เมื่อวันที่ 23 เม.ย. 64 ที่ผ่านมา นายสุจินต์ ไชยชุมศักดิ์ ผู้ว่าราชการจังหวัดนนทบุรี ในฐานะประธานคณะกรรมการโรคติดต่อจังหวัดนนทบุรี ได้ออกคำสั่งจังหวัดนนทบุรี ที่ 1121/2564 ลงวันที่ 23 เมษายน 2564 เรื่อง สั่งปิดสถานที่เป็นการชั่วคราว (ฉบับที่ 37)
1. ปิดสถานที่ เป็นการชั่วคราว ได้แก่ สนามชนโค สนามชนไก่ สนามที่ซ้อมประลองไก่ สนามกัดปลา รวมทั้งสนามซ้อมหรือสนามประกวด-แข่งขัน-ฝึกซ้อมสัตว์ หรือกิจกรรมในทำนองเดียวกัน
-สถานบริการ สถานประกอบการคล้านสถานบริการ สถานบันเทิง ผับ บาร์ คาราโอเกะ สถานประกอบกิจการอาบน้ำ สถานประกอบกิจการอาบอบนวด
-สถานที่เล่นตู้เกม เครื่องเล่น ร้านเกม สวนน้ำและสวนสนุก ทั้งในและนอกห้างสรรพสินค้า ศูนย์การค้า คอมมูนิตี้มอลล์ หรือสถานประกอบการอื่นที่มีลักษณะคล้ายกัน
-ศูนย์พระเครื่อง พระบูชา และสนามพระเครื่อง พระบูชา
-สระว่ายน้ำ (รวมถึงสระว่ายน้ำของหมู่บ้านหรือาคารชุดพักอาศัย)
2. ห้ามดำเนินการหรือจัดกิจกรรมที่เสี่ยงต่อการแพร่โ ร ค
- ห้ามใช้อาคารหรือ สถานที่ของโรงเรียนและสถาบันการศึกษาทุกประเภทเพื่อการจัดการเรียนการสอน การสอบ การฝึกอบรม หรือ การทำกิจกรรมใดๆ ที่มีผู้ร่วมกิจกรรมเป็นจำนวนมาก ทำให้เสี่ยงต่อการแพร่โรค เว้นแต่ การใช้เป็นเอกเทศตามกฎหมาย ว่าด้วยโรคติดต่อหรือการใช้เป็นสถานที่เพื่อให้ความช่วยเหลืออุปการะ หรือ การใช้สถานที่ตามข้อยกเว้นที่กำหนดไว้ในข้อ 1 ของข้อกำหนด (ฉบับที่16) ลงวันที่ 3 ม.ค. 64 ได้แก่ เป็นการเรียนการสอนหรือกิจกรรมเพื่อการสื่อสารแบบทางไกล หรือ ด้วยวิธีการทางอิเล็กทรอนิกส์ ,เป็นการใช้อาคารหรือสถานที่เพื่อให้ความช่วยเหลือ สงเคราะห์ อุปถัมภ์ หรือ ให้การอุปการะแก่บุคคล ,เป็นการจัดกิจกรรมของทางราชการหรือกิจกรรมเพื่อประโยชน์สาธารณะ โดยได้รับอนุญาตจากผู้ว่าราชการจังหวัด
-ห้ามทำกิจกรรมซึ่งมีการรวมกลุ่มกันมากกว่า 10 คนขึ้นไป เว้นแต่ได้รับอนุญาตจากเจ้าพนักงาน หรือ เป็นกิจกรรมที่ดำเนินการโดยพนักงานเจ้าหน้าที่ หรือ จัดกิจกรรมในพื้นที่ที่กำหนดให้เป็นสถานที่กักกันโ ร ค โดยดำเนินการตามมาตรการป้องกันที่ทางราชการกำหนด
3. กำหนดมาตราการควบคุมจำเป็นอย่างเร่งด่วน สำหรับสถานที่ กิจการ หรือ กิจกรรม เพื่อให้สามารถเปิดำเนินการได้ภายใต้เงื่อนไข เงื่อนเวลา การจัดระบบและระเบียบ รวมทั้งมาตราการป้องกันโ ร คที่ทางราชการกำหนด
-การจำหน่ายอาหารหรือเครื่องดื่ม ให้ผู้บริโภคอาหารและเครื่องดื่มในร้านได้ไม่เกินเวลา 21.00 น. และให้จำหน่ายอาหารและเครื่องดื่ม ในลักษณะของการนำไปบริโภคที่อื่นได้จนถึงเวลา 23.00 น.
-ห้ามบริโภคสุราหรือเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ในร้านอาหารหรือสถานที่จำหน่ายสุราตลอดเวลา
- ห้างสรรพสินค้า ศูนย์การค้า คอมมูนิตี้มออล์ หรือ สถานประกอบการอื่นที่มีลักษณะคล้ายกัน ให้เปิดดำเนินการได้ตามเวลาปกติของสถานที่นั้น ๆ จนถึงเวลา 21.00 น. โดยให้จำกัดจำนวนผู้ใช้บริการและงดเว้นการจัดกิจกรรมส่งเสริมการขาย
-ร้านสะดวกซื้อ ซูเปอร์มาเกต ให้เปิดดำเนินการได้ตามเวลาปกติของสถานที่นั้นๆ แต่ไม่เกินเวลา 23.00 น. สำหรับร้าน หรือสถานที่ซึ่งตามปกติเปิดให้บริการตลอด 24 ชม. ให้เริ่มเปิดดำเนินการในเวลา 04.00 น.
-ตลาดนัดกลางคืน ตลาดโต้รุ่ง ถนนคนเดิน ให้เปิดดำเนินการได้ตามเวลาปกติของสถานที่นั้นๆ แต่ไม่เกินเวลา 21.00 น.
-สนามกีฬา หรือ สถานที่เพื่อออกกำลังกาย ยิม ฟิตเนส สามารถเปิดให้บริการได้ไม่เกินเวลา 21.00 น. และสามารถจัดแข่งขันกีฬาได้โดยไม่มีผู้ชมในสนาม ทั้งนี้ สถานที่ประกอบกิจการออกกำลังกาย (Fitness) ให้เปิดดำเนินการได้โดยจำกัดจำนวนผู้เข้าใช้บริการ งดการเล่นแบบรวมกลุ่ม การอบตัว หรืออบไอน้ำแบบรวม
4.กำหนดมาตรการควบคุมป้องกันโรคเพิ่มเติม
-ให้ประชาชนและเจ้าหน้าที่รัฐที่อยู่ในจ.นนทบุรีทุกคน ต้องสวมใส่หน้ากากอนามัยหรือหน้ากากผ้าอย่างถูกวิธี ทุกครั้งก่อนออกจากเคหะสถานหรือสถานที่ทำงาน หรือเดินทางไปในสถานที่สาธารณะ หรือ สถานที่ใดๆ สำหรับบุคคลซึ่งอยู่ในร้านค้า ร้านอาหาร ตลาด สถานที่ทำงาน หรือสถานที่ใด ๆ ที่ต้องติดต่อกับบุคคลอื่น ๆ หรืออยู่ร่วมกันของคนหมู่มาก ต้องสวมหน้ากากผ้าหน้ากากอนามัยด้วยทุกครั้ง ตลอดเวลา ผู้ใดไม่ปฏิบัติตามมาตรการควบคุมโรคในข้อนี้ถือเป็นการฝ่าฝืนคำสั่งเจ้าพนักงานควบคุมโรคติดต่อ มีระวางโทษปรับไม่เกิน 20,000 บาท
-ให้ประชาชนงดการวมกลุ่มดื่มหรือเครื่องดื่มในทุกสถานที่ เว้นแต่การดื่มของสมาชิกภายในครอบครัวที่พักอาศัย
5.ขอความร่วมมือประชาชน งดออกนอกเคหสถานหรือที่พำนักภายหลังเวลา 21.00 น. จนถึงเวลา 04.00 น. ของวันถัดไป เว้นแต่มีเหตุจำเป็นอันมิอาจหลีกเลี่ยงได้
6. ขอความร่วมมือภาครัฐและเอกชนจัดให้มีการทำงานที่บ้าน (Work From Home) และให้เจ้าหน้าที่หรือพนักงานงดการทานอาหารร่วมกันเป็นหมู่คณะ
7.ให้ยังคงถือปฏิบัติตามคำสั่งจังหวัดนนทบุรีที่ 1019/2564 เรื่องสั่งปิดสถานที่เป็นการชั่วคราว (ฉบับที่ 35) ลงวันที่ 16 เม.ย.64 ในข้อ 4-8 โดยเคร่งครัด
อนึ่งเนื่องจากเป็นกรณีจำเป็นรีบด่วน หากปล่อยให้เนิ่นนานช้าไปจะก่อให้เกิดผลเสียหายอย่างร้ายแรงแก่สาธารณชนหรือกระทบต่อประโยชน์สาธารณะ จึงไม่อาจให้คู่กรณีใช้สิทธิโต้แย้งตามมาตรา 30 วรรคสอง (1) แห่งพ.ร.บ.วิธีปฏิบัติราชการทางปกครอง 2539 ผู้ฝ่าฝืนหรือไม่ปฏิบัติตามคำสั่งดังกล่าว ต้องระวางโทษจำ คุ กไม่เกินหนึ่งปี หรือ ปรับไม่เกินหนึ่งแสนบาท หรือ ทั้งจำทั้งปรับ เว้นแต่ข้อที่ได้มีการกำหนดอัตราโทษสูงสุดไว้แล้ว
ทั้งนี้ ตั้งแต่วันที่ 24 เม.ย.64 จนกว่าจะมีคำสั่งเปลี่ยนแปลง