ทุ่ม 2 แสนล้านต่ออายุเราชนะ - ราปิดนิวส์ ข่าวเฟซบุ๊ก

สดๆร้อนๆ

Tuesday, May 4, 2021


ผู้สื่อข่าวรายงานว่า กระทรวงการคลัง จะเสนอแนวทางให้ความช่วยเหลือและเยี ยวยาประชาชน
จากผลกระทบ cv ให้พิจารณา เนื่องจากประเมินว่า cv ส่งผลกระทบต่อประชาชนในวงกว้าง
จากการแพ ร่กระจายไปยังทุกจังหวัดทั่วประเ ทศ จึงจะเสนอให้ต่ออ ายุและเพิ่มเงิ นในมาตรการ
“เร าชนะ ออกไปอีก 1-2 เดือน จากเดิมที่สิ้ นสุดในวันที่ 31 พ.ค.นี้ เป็นสิ้ นสุดเดือน มิ.ย.-ก.ค.นี้
ซึ่งจะใช้เงิ นเพิ่ม 100,000-200,000 ล้านบ าท และดำเนินการต่อเนื่ องได้ทันที

อย่ างไรก็ตาม หาก ครม.เห็นชอบยังต้องหารือกับคณะกร รมการกลั่นกรองเงิ นกู้
เนื่องจากต้องมีการขออนุมัติและเสนอขอ ครม.โยกเงิ นในส่วนของการฟื้นฟูเศ รษฐกิจและสังคมจากผลกระทบCv ซึ่งปัจจุบันเหลืองบไ ม่มาก
ให้มาอยู่ในส่วนของวงเงิ นเพื่อเยี ยวย าผู้ได้รับผลกระทบจากcv เพื่อใช้เยี ยวย าช่วยเหลือประชาชนต่อไป
ผู้รับสิทธิ์พุ่ง 32.8 ล้านคน ยอดใช้จ่ ายเฉี ยด 2 แสนล้าน
น.ส.กุลย า ตันติเตมิท ผู้อำนวยการสำนักงานเศร ษฐกิจการคลัง (สศค.) ในฐานะโฆษกกระทร วงการคลัง
กล่าวถึงความคืบหน้ าของโครงการเร าชนะ ณ วันที่ 19 เมษายน 2564 ว่า
มีผู้ได้รับสิทธิ์ในโครงการฯ แล้วรวมทั้งสิ้ นจำนวน 32.8 ล้านคน
คิดเป็นมูลค่ าการใช้จ่ ายหมุนเวี ยนในระบบเศร ษฐกิจไทยแล้วกว่า 199,944 ล้านบ าท
ซึ่งเป็นการใช้จ่ ายผ่ านผู้ประกอบการร้ านธงฟ้าร าคาประหยัดพัฒนาเศร ษฐกิจท้องถิ่น
ที่มีแอปพลิเคชัน ถุงเ งิน ร้ านค้าค นละครึ่งที่ตกลงยินยอมเข้าร่วมโครงการฯ

รวมถึงผู้ประกอบการร้ านค้าและผู้ให้บริการที่ลงทะเบี ยนเข้าร่วมโครงการฯ จำนวนทั้งสิ้ นมากกว่า 1.3 ล้านกิจการ โดยแบ่งเป็น 3 กลุ่ม ดังนี้
1) ประชาชนกลุ่มผู้ถือบัตรสวั สดิการแห่งรั ฐ จำนวน 13.7 ล้านคน ได้มีการใช้จ่ ายตั้งแต่วันที่ 5 กุมภาพันธ์ 2564 เป็นต้นมา จำนวน 73,133 ล้านบ าท
2) ประชาชนกลุ่มที่อยู่ในระบบฐานข้อมูลของแอปพลิเคชัน เป๋าตัง ในโครงการเร าเที่ยวด้วยกันและค นละครึ่ง
และกลุ่มประชาชนทั่วไปที่ลงทะเบี ยนทางเว็บไซต์ www.เร าชนะ.com ที่ผ่ านการคัดกรองคุณสมบัติเบื้องต้นและยืนยันการใช้สิทธิ์ร่วมโครงการฯ แล้ว จำนวน 16.8 ล้านคน
และมีการใช้จ่ ายวงเงิ นสิทธิ์สะสมตั้งแต่วันที่ 18 กุมภาพันธ์ 2564 เป็นต้นมา จำนวน 112,772 ล้านบ าท

3) ประชาชนกลุ่มผู้ที่ต้องการความช่วยเหลือเป็นพิเศษ ที่ผ่ านการคัดกรองคุณสมบัติแล้ว จำนวน 2.3 ล้านคน
มียอดใช้จ่ ายวงเงิ นสิทธิ์สะสมตั้งแต่วันที่ 5 มีนาคม 2564 เป็นต้นมา จำนวน 14,039 ล้านบ าท
มี งบกลาง-เงิ นกู้ ใช้เยี ยวย าcv ได้อีก 2.6 แสนล้าน
นายเดชาภิวัฒน์ ณ สงขลา ผู้อำนวยการสำนักงบประมาณ กล่าวว่า ปัจจุบันวงเงิ นที่ใช้เยี ยวย าประชาชนจากผลกระทบcv
เหลืออยู่ประมาณ 300,000 ล้านบ าท แบ่งเป็น
1.เงิ นกู้ตาม พ.ร.ก.ให้อำนาจกระทร วงการคลังกู้เ งิน วงเงิ น 1 ล้านล้านบ าท ซึ่งเหลืออยู่ 200,000 ล้านบ าท และ
2.งบกลางในปี 2564 ซึ่งเดิมตั้งงบกลางไว้ 139,000 ล้านบ าท แบ่งเป็นงบกลางร ายการสำรองจ่ าย
ในกรณีฉุ กเฉิ นและจำเป็น 99,000 ล้านบ าท ปัจจุบันใช้แล้ว 19,000 ล้านบ าท คงเหลือ 80,000 ล้านบ าท
และงบกลางในส่วนcv 40,000 ล้านบ าท คงเหลือ 20,000 ล้านบ าท

โดย 20,000 ล้านบ าทที่ใช้ไปนั้น รั ฐบ าลใช้มัดจำซื้อวัค ซี นและเพิ่มค่าตอบแทนให้บุคลากรทางการแพ ทย์
รวมแล้วงบกลางที่คงเหลือ 2 ส่วน สามารถใช้ได้ 100,000 ล้านบ าท หากนำไปเยี ยวย าประชาชนคงใช้ 50,000-60,000 ล้านบ าท
เพราะต้องกันบางส่วนไว้รองรับภั ยพิบั ติจากภั ยแล้ง น้ำท่วม หรืออื่นๆ 40,000-50,000 ล้านบ าท
ดังนั้นเมื่อรวมเงิ นกู้ที่เหลือและงบกลางที่ใช้เยี ยวย าประชาชนได้ จะอยู่ที่ 250,000-260,000 ล้านบ าท
อย่ างไรก็ต ามในปีงบ 2564 ไ ม่จำเป็นต้องโอนงบจากส่วนร าชการมาใช้เยี ยวย าผลกระทบcv เพิ่ม เหมือนปี 2563
ซึ่งขณะนั้นยังไ ม่ได้ออก พ.ร.ก.กู้เ งิน และการโอนเงิ นจากส่วนร าชการใช้เวลา 2-3 เดือน หากจะทำตอนนี้คงไ ม่ทัน
และขณะนี้วงเงิ นที่เหลืออยู่ยังมีเพียงพอรับมือcvได้ เพราะการออกมาตรการเยี ยวย าและกระตุ้นเศร ษฐกิจแต่ละครั้งใช้เงิ นไ ม่เกิน 100,000 ล้านบ าท
ส่วนงบจัดซื้อวั ค ซีนที่อนุมัติแล้ว 6,000 ล้านบ าท อยู่ในส่วนของงบปี 2564 ไ ม่ได้ตั้งงบจัดซื้อไว้ในงบปี 2565
แต่หากจำเป็นต้องใช้เ งิน สามารถใช้งบของกรมควบคุมสำหรับการจัดซื้อวั ค ซีนทั่วไปได้
หากจำเป็นอาจขย ายเพดานห นี้สาธารณะ เพื่อกู้เงิ นเพิ่ม
นายเดชาภิวัฒน์ กล่าวต่อว่า ในการประชุม ครม.วันที่ 20 เม.ย.นี้ สำนักงบประมาณจะเสนอให้พิจารณา ร่างพระร าชบัญญัติ (พ.ร.บ.) ปีงบประมาณ 2565
วงเงิ น 3.1 ล้านล้านบ าท เพื่อขอจัดทำเอกส ารงบประมาณ โดยแบ่งเป็นประมาณการร ายได้ 2.4 ล้านล้านบ าท

และการกู้งบประมาณขาดดุล 700,000 ล้านบ าท อย่ างไรก็ต าม หากมีการแพร่ของcv รอบ 4
รั ฐบ าลยังมีงบกลางที่จะดึงมาใช้ได้อีก 89,000 ล้านบ าท รวมทั้งงบกลางฉุ กเฉิ นเมื่อจำเป็นที่สำรองไว้สำหรับภั ยพิบัติอีก 50,000 ล้านบ าท
ส่วนความจำเป็นในการกู้เงิ นเพิ่มเติมจาก พ.ร.ก.เงิ นกู้ 1 ล้านล้านบ าทนั้น ตามวินัยการเงิ นการคลังกำหนดว่า
หนี้สาธารณะต้องไ ม่เกิน 60% ของผลิตภัณฑ์มวลรวมในประเ ทศ (จีดีพี)
ซึ่งสามารถใช้เกณฑ์นี้ได้ในภาวะปกติ แต่ในช่วงcv ถ้าจะกู้เงิ นเพิ่ม อาจต้องขยับเพดานวินั ยการเงิ นการคลัง

ทุ่ม 2 แสนล้านต่ออายุเราชนะ

Post Bottom Ad