ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ที่ประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) วันนี้ (20 เม.ย.) มีมติเห็นชอบเปลี่ยนแปลงรายละเอียดสำคัญของโครงการ เราชนะ เพื่อให้ผู้ที่มีคุณสมบัติเป็นไปตามหลักเกณฑ์ของโครงการ สามารถได้รับความช่วยเหลือ และสามารถใช้จ่ายวงเงินที่ได้รับภายในระยะเวลาที่เหมาะสมตามที่กระทรวงการคลังเสนอ ดังนี้
ขยายกลุ่มเป้าหมายและกรอบวงเงินของโครงการจากกลุ่มเป้าหมายจำนวนประมาณ 31.1 ล้านคน กรอบวงเงินไม่เกิน 210,200 ล้านบาท เป็นกลุ่มเป้าหมายจำนวนประมาณ 33.5 ล้านคน หรือเพิ่มอีก 2.4 ล้านคน ใช้กรอบวงเงินไม่เกิน 213,242 ล้านบาท หรือเพิ่มขึ้น 3,042 ล้านบาท
ขยายระยะเวลาใช้วงเงินสนับสนุนสำหรับผู้ได้รับสิทธิ์ตามโครงการจาก สามารถใช้จ่ายได้ไม่เกินวันที่ 31 พฤษภาคม 2564 เป็นใช้จ่ายได้ไม่เกินวันที่ 30 มิถุนายน 2564
ด้าน กระทรวงการคลัง รายงานความคืบหน้าของโครงการเราชนะ ณ วันที่ 19 เมษายน 2564 ดังนี้
ประชาชนกลุ่มผู้ถือบัตรสวัสดิการแห่งรัฐ จำนวน 13.7 ล้านคน ได้มีการใช้จ่ายตั้งแต่วันที่ 5 กุมภาพันธ์ 2564 เป็นต้นมา จำนวน 73,133 ล้านบาท
ประชาชนกลุ่มที่อยู่ในระบบฐานข้อมูลของแอปพลิเคชัน เป๋าตัง ในโครงการเราเที่ยวด้วยกัน และคนละครึ่ง และกลุ่มประชาชนทั่วไปที่ลงทะเบียนทางเว็บไซต์ www.เราชนะ.com ที่ผ่านการคัดกรองคุณสมบัติเบื้องต้น และยืนยันการใช้สิทธิ์ร่วมโครงการแล้ว จำนวน 16.8 ล้านคน และมีการใช้จ่ายวงเงินสิทธิ์สะสมตั้งแต่วันที่ 18 กุมภาพันธ์ 2564 เป็นต้นมา จำนวน 112,772 ล้านบาท
ประชาชนกลุ่มผู้ที่ต้องการความช่วยเหลือเป็นพิเศษ ที่ผ่านการคัดกรองคุณสมบัติแล้ว จำนวน 2.3 ล้านคน มียอดใช้จ่ายวงเงินสิทธิ์สะสมตั้งแต่วันที่ 5 มีนาคม 2564 เป็นต้นมา จำนวน 14,039 ล้านบาท ทำให้มีผู้ได้รับสิทธิ์ในโครงการแล้ว รวมทั้งสิ้นจำนวน 32.8 ล้านคน คิดเป็นมูลค่าการใช้จ่ายหมุนเวียน ในระบบเศรษฐกิจไทยแล้วกว่า 199,944 ล้านบาท
ซึ่งเป็นการใช้จ่ายผ่านผู้ประกอบการ ร้านธงฟ้าราคาประหยัดพัฒนาเศรษฐกิจท้องถิ่น ที่มีแอปพลิเคชัน ถุงเงิน ร้านค้าคนละครึ่งที่ตกลงยินยอมเข้าร่วมโครงการ รวมถึงผู้ประกอบการร้านค้า และผู้ให้บริการที่ลงทะเบียนเข้าร่วมโครงการ จำนวนทั้งสิ้นมากกว่า 1.3 ล้านกิจการ