สำหรับโครงการ คนละครึ่ง เฟส3 ที่หลายคนรอคอย น.ส.กุลยา ตันติเตมิท ผู้อำนวยการสำนักงานเศรษฐกิจการคลัง ในฐานะโฆษกกระทรวงการคลัง กล่าวถึงงบประมาณสำหรับใช้เยียวย าและฟื้นฟูผลกระทบจากการแพร่กระจายของ CV-19v ว่า รัฐบาลยังมีงบประมาณเหลือเพียงพอสำหรับนำมาใช้เยียวย า และฟื้นฟูดูแลเศรษฐกิจ โดยมีเงินเหลือเกือบ 3.8 แสนล้านบาท แบ่งเป็นเงินจาก พ.ร.ก.เงินกู้ 1 ล้านล้านบาท ปัจจุบัน ครม.ได้อนุมัติโครงการไปแล้ว 7.6 แสนล้านบาท เหลือใช้อีก 2.4 แสนล้านบาท
นอกจากนี้ยังมีเงินจากงบกลางปี 64 ในส่วนของเงินสำรองจ่ายเพื่อการฉุกเฉินและจำเป็น 99,000 ล้านบาท ซึ่งเพิ่งเบิกใช้ไปเพียง 500 ล้านบาท และงบสำหรับบรรเทา CV-19 อีก 40,000 ล้านบาท ซึ่งเบิกจ่ายไปแล้ว 3,200 ล้านบาท
งบประมาณที่เหลือจะถูกนำออกไปใช้ด้านใดนั้น จะต้องรอการพิจารณาในระดับนโยบายและการตัดสินใจของรัฐบาล ซึ่งตามแผนเดิมหลังจบมาตรการเราชนะในวันที่ 31 พ.ค.64 กระทรวงการคลังจะมีการประเมินผล หากต้องการฟื้นฟูเศรษฐกิจให้ต่อเนื่อง ก็อาจนำโครงการคนละครึ่ง ระยะ 3 มาใช้ต่อ
เพราะเป็นมาตรการที่กระตุ้นการใช้จ่ายได้อย่างดี แต่เนื่องจากขณะนี้สถานการณ์เปลี่ยนไปเกิดการแพร่กระจายของ CV-19อีกรอบ ก็ต้องมาประเมินสถานการณ์ใหม่อีกครั้งว่า ควรจะนำเม็ดเงินลงสู่ระบบเร็วหรือไม่
น.ส.กุลย า กล่าวเพิ่มเติมว่า สำนักงานเศรษฐกิจการคลัง หรือ สศค. เตรียมประเมินตัวเลขจีดีพีปี 64 ใหม่ช่วงปลายเดือน เม.ย.นี้ จากเดิมที่ประเมินไว้จะขยายตัวที่ 2.8% แต่ตัวเลขที่จะปรับเป็นอย่างไรยังต้องรอผลการประเมินก่อน เนื่องจากขณะนี้สถานการณ์ต่างๆ เปลี่ยนไปจากการแพร่กระจายของ CV-19 ระลอกใหม่ ส่วนเศรษฐกิจจะโตตามเป้าหมายที่ 4% หรือไม่
หากดูสถานการณ์ก่อนหน้านี้ถือว่ามีทิศทางที่ดีขึ้นจากการส่งออกและเศรษฐกิจโลก แต่เมื่อมีการระบา ดเกิดขึ้นใหม่ก็ต้องรอดูเรื่องการควบคุม หากยังไปต่อได้เหมือนการระบา ดรอบ 2 ที่ไม่มีการล็อกดาวน์ ก็จะไม่ส่งผลกระทบต่อเศรษฐกิจมาก
อย่างไรก็ตาม สำหรับโครงการ คนละครึ่งเฟส3 ต้องรอดูสถานการณ์ของการแพร่กระจายของ CV-19 ระลอกใหม่ เพื่อเตรียมเยียวย าต่อไป