ในการประชุมคณะรัฐมนตรี วันที่ 20 เมษายนนี้ จะหารือถึงมาตรการช่วยเหลือ CV19 ขณะที่ นางสาวกุลยา ตันติเตมิท โฆษกกระทรวงการคลัง ระบุว่า งบประมาณที่เหลืออยู่ 240,000 ล้านบาท ภายใต้ พ.ร.ก.เงินกู้ 1,000,000 ล้านบาทนั้น จะต้องถูกนำมาใช้ให้เกิดประโยชน์สูงสุด ซึ่งเดิมทีจะออกโครงการคนละครึ่งเฟส 3 ต่อจากโครงการเราชนะในช่วงเดือนมิถุนายน แต่อาจจะต้องเปลี่ยนแผนอัดฉีดเม็ดเงินเข้าสู่ระบบให้เร็วขึ้น
ด้าน นายสนั่น อังอุบลกุล ประธานกรรมการหอการค้าไทย เตรียมหารือร่วมกับเอกชน 40 รายใหญ่ของไทยในวันนี้ เพื่อประเมินสถานการณ์และหาแนวทางฟื้นฟูเศรษฐกิจที่ได้รับผลกระทบจาก CV19 โดยเน้นการประสานงานกับรัฐฯ ให้กระจายวัคซีน CV19 ให้มากและรวดเร็วที่สุดรวมถึงแนวทางช่วยเหลือธุรกิจที่กำลังประสบปัญหาโดยเฉพาะกลุ่ม SME ที่มีเงินทุนหมุนเวียนไม่เพียงพอและจะส่งรายงานการประชุมให้คณะรัฐมนตรีรับทราบด้วย
เช่นเดียวกับสภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย หรือ ส.อ.ท. เร่งให้รัฐบาลนำเข้าวัคซีน CV19 ให้เร็วที่สุด โดยภายในไตรมาส 3 ต้องครอบคลุมคนไทยไม่น้อยกว่า 70% รวมถึงเร่งออกมาตรการช่วยเหลือค่าใช้จ่ายให้กับประชาชนอย่างที่เคยทำมา เช่น คนละครึ่ง, เราชนะ และ ม.33เรารักกัน ส่วนมาตรการคุมการแพร่กระจาย ที่รัฐประกาศและยืนยันว่าจะไม่ล็อกดาวน์และเคอร์ฟิวนั้น
ถือว่าเป็นผลดี ไม่สร้างความผิดหวังให้กับภาคเอกชน แต่สถานการณ์ในตอนนี้เหมือนเป็นการเคอร์ฟิวไปในตัวอยู่แล้วเพราะประชาชนกังวลและตื่นกลัวกว่าครั้งที่ผ่านๆ มา อีกทั้งเมื่อปิดสถานที่ต่างๆ เร็วขึ้น ประชาชนก็ไม่รู้จะออกไปที่ใดในช่วงเวลากลางคืน ทั้งนี้อยากให้รัฐบาลประเมินในเชิงลึกทุกๆ 3 วัน ไม่ต้องรอ 14 วัน
ขอบคุณ bugaboo