ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ที่ทำเนียบรัฐบาล นางสาวไตรศุลี ไตรสรณกุล รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี แถลงผลการประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) ว่า ได้เห็นชอบให้เพิ่มอัตราเงินอุดหนุนนักเรียนยากจนพิเศษแบบมีเงื่อนไข
กองทุนเพื่อความเสมอภาคทางการศึกษา (กสศ.) ระบุว่า เนื่องจากสถานการณ์การแพร่ของcv-19 ได้ส่งผลให้ครัวเรือนของนักเรียนยากจนพิเศษมีรายได้ลดลงและเกิดการว่างงาน ประกอบกับผลวิเคราะห์จากโครงการวิจัยพัฒนาระบบบัญชีรายจ่ายด้านการศึกษาแห่งชาติ
จากสถานการณ์ข้างต้น กสศ. จึงมีข้อเสนอว่า อัตราเงินทุนเสมอภาคในปัจจุบัน ยังไม่ครอบคลุมเพียงพอต่อค่าใช้จ่ายด้านการศึกษาสำหรับครัวเรือนของนักเรียนยากจนพิเศษ ดังนั้นจึงเห็นควรให้เพิ่มอัตราเงินอุดหนุนนักเรียนยากจนพิเศษตั้งแต่ปีการศึกษา 2565 เป็นต้นไป เพื่อให้สอดคล้องกับสถานการณ์ทางเศรษฐกิจและสังคม ลดช่องว่างความเหลื่อมล้ำทางการศึกษาระหว่างนักเรียนจากครอบครัวที่มีรายได้แตกต่างกัน และป้องกันความเสี่ยงในการหลุดออกจากระบบการศึกษาของประชากรกลุ่มนี้ในระยะยาว
อัตราเงินอุดหนุนใหม่
ระดับอนุบาล
อัตราเดิม 4,000 บาท
อัตราใหม่ (ยังคงจ่ายเท่าเดิม)
2. ระดับประถมศึกษา
อัตราเดิม 3,000 บาท
อัตราใหม่ 5,100 บาท
3. ระดับมัธยมศึกษาตอนต้น
อัตราเดิม 3,000 บาท
อัตราใหม่ 4,500 บาท
4. ระดับมัธยมศึกษาตอนปลาย
อัตราเดิม 3,000 บาท
อัตราใหม่ 9,100 บาท
5. อาชีวศึกษา
อัตราเดิม 3,000 บาท
อัตราใหม่ 9,100 บาท
น.ส.ไตรศุลี กล่าวว่า ซึ่งตามนิยามของเด็กนักเรียนยากจนพิเศษ จะหมายถึง นักเรียนยากจนที่ผ่านเกณฑ์การคัดกรองผู้ขาดแคลนทุนทรัพย์ ด้วยวิธีการวัดรายได้ทางอ้อมแบบ PMT หรือ Proxy Means Test จากระบบปัจจัยพื้นฐานนักเรียนยากจนของสำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน และอยู่ในกลุ่มค่าคะแนนความยากจนอยู่ในเกณฑ์ยากจนพิเศษ หรือ ครอบครัวที่มีรายได้เฉลี่ย 1,200 บาทต่อคนต่อเดือน
ขอบคุณ prachachat