วันนี้ (8 พ.ค.64) นางวัลยา วัฒนรัตน์ รองปลัดกรุงเทพมหานคร เปิดเผยว่า พล.ต.อ.อัศวิน ขวัญเมือง ผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร มีความห่วงใย พ่อ แม่ ผู้ปกครอง ตลอดจนพี่น้องประชาชน ที่ต้องดำเนินชีวิตในช่วงสถานการณ์การแพร่กระจายของ CV-19 จึงมอบนโยบายให้สถานธนานุบาลกรุงเทพมหานคร ได้จัดสรรวงเงิน 1,500 ล้านบาท รองรับการจํานําในช่วงเปิดเทอม
เนื่องจากประชาชน ผู้ปกครอง ต้องเตรียมเงินซื้ออุปกรณ์การเรียนการศึกษาให้กับบุตรหลาน จึงได้จัดโปรโมชั่นต้อนรับเปิดเทอมสําหรับนักเรียน นิสิต นักศึกษาและผู้ปกครอง โดยคิดดอกเบี้ย 0.50 บาทต่อเดือน เริ่มตั้งแต่ 1 เม.ย.64 จนถึง 30 มิ.ย.64 โดยให้วงเงินสูงสุด 100,000 บาท คาดว่าจะช่วยแบ่งเบาภาระให้กับผู้ปกครอง ในช่วงเปิดเทอมได้ในระดับหนึ่ง ซึ่งผู้ที่จะเข้ามาใช้บริการนั้น ถ้ามีสินทรัพย์ก็สามารถนํามาจํานําได้ทันทีไม่ต้องเช็กเครดิตบูโร
ทั้งนี้ หากเป็นนักเรียน นักศึกษาจะต้องมีเอกสารบัตรประจําตัวนักเรียน-นักศึกษาหรือใบรับรองจาก สถาบันการศึกษาและต้องมีอายุ 15 ปีขึ้นไปถึงเข้ามาใช้บริการด้วยตนเองได้ ส่วนผู้ปกครองที่ต้องการได้ดอกเบี้ย พิเศษจะต้องนําสูติบัตรหรือสําเนาใบเกิดของบุตรหลานมาแสดงกรณีที่เป็นพ่อ แม่ แต่ถ้าไม่ใช่พ่อแม่ต้องนําเอกสาร เช่น สมุดจดบันทึกประจําตัวนักเรียน เพื่อแสดงฐานะการเป็นผู้ปกครอง
ขณะเดียวกัน เพื่อเป็นการช่วยเหลือประชาชนในช่วงสถานการณ์การแพร่กระจายของ CV-19 และทําให้ทรัพย์หลุดจํานําลดน้อยลง สถานธนานุบาลกรุงเทพมหานคร ได้ขยายเวลาระยะเวลาตั๋วรับจํานําให้กับลูกหนี้ จากเดิมกําหนดระยะเวลาการรับจํานําไว้ที่ 4 เดือน 30 วัน ต้องมาไถ่ถอนทรัพย์คืนหากไม่มาไถ่ถอนทรัพย์จะหลุดเป็นของโรงรับจํานํา สถานธนานุบาลกรุงเทพมหานคร จึงได้ขยายเวลาของตั๋วรับจํานําเพื่อให้ลูกหนี้มีโอกาสมาไถ่ถอนทรัพย์คืนหลังสถานการณ์ CV-19 คลี่คลาย
โดยตั๋วรับจํานําตั้งแต่วันที่ 11-31 ก.ค.63 , วันที่ 1-31 ส.ค.63 , วันที่ 1-30 ก.ย. 63 , วันที่ 1-31 ต.ค. 63 , วันที่ 1-30 พ.ย. 63 และวันที่ 1-20 ธ.ค.63 ให้สามารถทําธุรกรรมได้ถึงวันที่ 31 พ.ค.64 กรณีที่ประชาชนมีตั๋วรับจํานําของสถานธนานุบาลตามวันที่ดังกล่าวข้างต้น จะได้รับสิทธิทันที โดยไม่ต้องติดต่อสถานธนานุบาลกรุงเทพมหานครเพื่อขอใช้สิทธิ
นอกจากนี้ สถานธนานุบาลกรุงเทพมหานคร ยังปรับลดอัตราดอกเบี้ย เพื่อช่วยเหลือกลุ่มธุรกิจรายย่อย และประชาชนทั่วไปให้มีทางเลือกในการหาแหล่งเงินทุนและกระตุ้นเศรษฐกิจภาคประชาชนให้มีสภาพคล่องในช่วงการแพร่กระจายของ CV-19 ดังนี้
1. เงินต้นไม่เกิน 5,000 บาทคิด อัตราดอกเบี้ย 0.25 บาทต่อเดือน (โดยจํากัดวงเงินรับจํานําไว้ที่ไม่เกิน 100,000 บาทต่อ 1 คน และต่อสถานธนานุบาล 1 แห่ง)
2. เงินต้น 5,001 - 15,000 บาท อัตราดอกเบี้ย 1 บาทต่อเดือน
3. เงินต้นเกิน 15,000 บาท ดอกเบี้ย 1.25 บาทต่อเดือน เริ่มตั้งแต่วันที่ 7พ.ค.64 จนถึง ก.ย.64
ทั้งนี้ จากข้อมูลของสํานักงานสถานธนานุบาลกรุงเทพมหานคร ตัวเลขการจํานํา ในช่วง 4 เดือนที่ผ่านมาปรับตัวขึ้นต่อเนื่อง โดยในช่วง ม.ค.- มี.ค. มีมูลค่า 1,370 ล้านบาท ซึ่งเฉพาะเดือน เม.ย.อยู่ ที่ 426 ล้านบาท โดยแนวโน้มการนําทรัพย์มาจํานำอยู่ในทิศทางขาขึ้นหลังจากที่เกิดการแพร่กระจายของ CV-19 ทําให้พ่อค้า- แม่ค้า และประชาชาชนทั่วไปที่ขาดสภาพคล่องนําทรัพย์มาวางไว้ที่โรงรับจํานํา
เพื่อนำไปใช้จ่ายหรือเพื่อลงทุนในการค้าขายเป็นจํานวนมาก สําหรับทรัพย์ที่มาจํานําสูงสุดส่วนใหญ่จะเป็นทองรูปพรรณ สัดส่วน 84% รองลงมา เป็นอัญมณี เพชร พลอย 10% ที่เหลือก็จะเป็นกรอบพระ นาค และทรัพย์ประเภทอื่น ๆ เช่น เครื่องใช้ไฟฟ้า และเครื่องมือช่าง นอกจากนี้ยังมีทรัพย์จํานําประเภทหม้อก๋วยเตี๋ยว หม้ออลูมิเนียม ถาดอลูมิเนียม และครก อีกด้วย
อย่างไรก็ตาม โรงรับจำนำ กทม. ต้อนรับเปิดเทอม ลดดอกเบี้ยเหลือ 0.50 บาทต่อเดือน เพื่อช่วยเหลือในสถานการณ์การแพร่กระจายของ CV-19