หลังการประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) เมื่อวันที่ 5 พ.ค. 64 ที่ผ่านมา พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และ รมว.กลาโหม ได้ออกมาแถลงมาตรการเยียวยาโควิดรอบ 3 ให้กับประชาชนที่ได้รับผลกระทบชุดใหญ่ โดยมาตรการเยียวย า หรือ มาตรการแจกเงิน
ประกอบด้วย 5 มาตรการสำคัญ ได้แก่
1 การเพิ่มวงเงินโครงการเราชนะ อีกสัปดาห์ละ 1,000 บาท เป็นระยะเวลา 2 สัปดาห์ โดยให้สิ้นสุดเวลาการใช้จ่ายในเดือนมิ.ย. 2564 วงเงินรวมประมาณ 67,000 ล้านบาท ผู้ได้สิทธิ 32.9 ล้านคน
2 การเพิ่มเงินช่วยเหลือผู้ประกันตนโครงการ ม.33 เรารักกัน อีกสัปดาห์ละ 1,000 บาท เป็นระยะเวลา 2 สัปดาห์ โดยให้สิ้นสุดเวลาการใช้จ่ายในเดือนมิ.ย. 2564 วงเงินรวมประมาณ 18,500 ล้านบาท ผู้ได้สิทธิ 9.27 ล้านคน
ม.33 เรารักกัน
โดยมาตรการที่ 1 และ 2 นี้ จะเสนอให้ ครม. เห็นชอบในสัปดาห์หน้า โดยคาดว่าจะแจกเงินให้ผู้ได้สิทธิได้ในสัปดาห์ที่ 3 และ 4 เดือน พ.ค.นี้ และผู้ได้สิทธิใช้เงินได้ถึงสิ้นเดือน มิ.ย. 2564 ซึ่งมีผู้ได้ประโยชน์ 42.17 ล้านคน มีเงินหมุนเวียนในระบบมากกว่า 100,000 ล้านบาท
สำหรับมาตรการ 3-5 จะเป็นมาตรการที่เริ่มใช้ต่อจากมาตรการที่ 1-2 หรือ เริ่มใช้ในเดือน ก.ค.-ธ.ค. 2564 ประกอบด้วย
3 การเพิ่มเงินให้แก่ผู้มีบัตรสวัสดิการแห่งรัฐ และกลุ่มเปาะบาง เพิ่มเติมเดือนละ 200 บาท ระยะเวลา 6 เดือน ตั้งแต่ก.ค.- ธ.ค. 2564 ผู้ได้สิทธิบัตรสวิสดิการ 13.6 ล้านคน และ กลุ่มเปาะบาง 2.5 ล้านคน รวมเป็น 16.1 ล้านคน ใช้งบประมาณ 19,320 หมื่นล้านบาท
4 โครงการคนละครึ่ง ระยะที่ 3 ให้วงเงินคนละ 3,000 บาท จำนวน 31 ล้านคน คิดเป็นวงเงินงบประมาณ 93,000 ล้านบาท เงื่อนไขการใช้เหมือนเดิม คือรับช่วยจ่ายให้ไม่เกิน 150 บาทต่อวัน โดยโครงการคนละครึ่งมีผู้ได้สิทธิเดิมจากเฟส 1 และ 2 จำนวน 15 ล้านคน และจะมีการเปิดรับลงทะเบียนเพิ่มในเฟส 3 อีก 16 ล้านคน
5 โครงการ ยิ่งใช้ยิ่งได้ เป็นโครงการใหม่ ซึ่งรัฐจะบัตรกำนัลอิเล็กทรอนิกส์ (e-Voucher) ให้แก่ผู้ที่ได้รับสิทธิโครงการยิ่งใช้ยิ่งได้ เมื่อชำระเงินผ่าน g-Wallet บนแอปพลิเคชัน เป๋าตัง กับผู้ประกอบการร้านค้าและบริการที่จดทะเบียนภาษีมูลค่าเพิ่มซึ่งติดตั้งแอปพลิเคชัน ถุงเงิน ที่เข้าร่วมโครงการยิ่งใช้ยิ่งได้